จากสงครามบอลข่านสู่ทีมฟุตบอลโลกระดับโลก-โครเอเชีย

ทีมโครเอเชีย

ทีมโครเอเชีย

ปานามา มอริเตเนีย จอร์เจีย และเอริเทรียเป็นสี่ประเทศที่มีขนาดประชากรพอๆ กับโครเอเชีย สี่ชาติเหล่านี้เคยลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งหนึ่งร่วมกัน นั่นคือตอนที่ปานามาเล่นที่รัสเซียในปี 2018 จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยความพ่ายแพ้ 3 นัดและเสียไป 11 ประตู

สายเลือด ฟุตบอลโลก 2022 ของโครเอเชียเป็นคนละเรื่องกัน ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 6 ครั้ง ประเทศเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ 3 ครั้ง ขณะที่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โครเอเชียเข้าชิงชนะเลิศและพ่ายแพ้ให้กับฝรั่งเศสในท้ายที่สุด

โครเอเชียเพิ่งได้รับเอกราชในปี 1991 ระหว่างสงครามบอลข่านนองเลือดยืดเยื้อจนถึงปี 1995 และประชากรของโครเอเชียมีไม่ถึงสี่ล้านคน แม้ว่าคุณจะไม่เคยรู้ว่ามันแลกหมัดกับมหาอำนาจฟุตบอลอย่างบราซิลในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่จะชนะจุดโทษ ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นอย่างมากจากการที่เดวิดเอาชนะโกลิอัทได้ เนื่องจากประชากรของบราซิลมีถึง 214 ล้านคน

รองลงมาสำหรับโครเอเชียคือลิโอเนล เมสซี และอาร์เจนตินา ประชากร 45 ล้านคน Igor Štimac ผู้เล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1998 ของโครเอเชียทุกนัดระหว่างการชิงอันดับที่ 3 บอกกับ CNN ว่าประวัติศาสตร์ล่าสุดของประเทศได้มีส่วนช่วยในการหล่อหลอมคู่แข่งชั้นยอด

คนของเราต้องผ่านความยากลำบากมากมายในการเอาชีวิตรอด ในความเป็นอิสระ การต่อสู้เพื่อมัน ในความก้าวร้าวที่เราได้รับจากเพื่อนบ้านของเรา สติมัช โค้ชทีมชาติโครเอเชียระหว่างปี 2012-13 กล่าวกับ CNN

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้มีกำลังจิตที่ดี มีระเบียบวินัยที่ดี อยู่อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิ ไม่ว่าความยากลำบากข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เราไม่สามารถพูดได้ว่าสงครามครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นที่นี่เท่านั้นที่ช่วยในเรื่องเหล่านี้ เพราะสงครามเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีบางอย่างเกี่ยวกับภูมิภาคนี้ในแง่ของสภาพอากาศ วัฒนธรรม

เซอร์ดาน ฟาบิยานัช นักข่าวฟุตบอลชาวโครเอเชีย ลงพื้นที่ในกรุงโดฮาเพื่อชมการซ้อมของทีมชาติชุดปัจจุบันนี้ กล่าวว่าความสามัคคีของทีมได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งพิเศษอีกครั้งสำหรับ Vatreni

ทีมนี้ประกอบด้วยนักเตะที่มีประสบการณ์อย่าง ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช และ เดยัน ลอฟเรน พร้อมด้วยผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ บอร์น่า โซซ่าทีมโครเอเชีย